(https://freelydays.com/wp-content/uploads/2023/03/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%AB-696x364.jpg)
5 แนวทางแก้นิสัย (https://freelydays.com/12886/)คนขีโมโหให้เปลี่ยนเป็นคนใจเย็น(กว่าเดิม)
1. ยับยั้งคำกล่าวแล้วก็ความประพฤติในยามที่โกรธคือหากมีความรู้สึกว่า อารมณ์กำลังพล่าน
ให้สงบนิ่งไว้ จำไว้เสมอว่า...ความนึกคิดใดๆคำกล่าวอะไรก็ตามพฤติกรรมอะไรก็ตามถ้าหากมีขึ้นในยามโก รธ
มักเป็นไปในทางทำลายรุ นแร งอาจหนำใจเดี๋ยวเดียว แต่ว่าท้ายที่สุดจะไม่เป็นผลดี
ก ฏเหล็กเบื้องต้นที่จำต้องทำให้ได้เป็น...พวกเราจะไม่บอกหรือทำอะไรเด็ดข าดในย ามที่โกร ธ
คอยให้ใจเย็นก่อน หายโก รธก่อนและก็หลังจากนั้นจึงค่อยว่ากัน
2. ใคร่ครวญโท ษของความโก รธและก็ประโยชน์ของความปรานีเป็นให้ย้อนคิดถึงชีวิตก่อนหน้านี้
ว่าเราเสียอะไรไปบ้างด้วยเหตุว่าความโก รธทำคนใดกันเศร้าใจกี่คน ทำลายโอกาสได้ไปเท่าไร
ทำลายความเกี่ยวพันไปอย่างไรสิ่งเหล่านี้ให้น้อมมาคิดบ่อยๆคิดซ้ำให้มากๆ
ตรึกตรองจนปัญญายอมรับ หมดข้ออ้างอย ากปรับแต่งตัวเองอย่างเต็มใจ
เนื่องจากว่าเชื่อมั่นแล้วว่า ความโกรธเคืองไม่ใช่ของดีแม้กระนั้นเป็นสิ่งที่ทำลายความสบายและก็ความรุ่งเรือง
อีกทั้งของเรา คนที่เรารัก และก็ผู้ที่รักเราไม่มีผู้ใดได้อะไรเลยจากความโก รธ
ธรรมชาติมนุษย์พวกเราเกลียดให้คนไหนกันแน่มาสั่งตราบที่พวกเรายังไม่ต กผลึ กยอมจำนนด้วยตนเองว่า
ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องแปลงตัวเองผู้ใดกันจะกล่าวใครกันแน่จะบอกจะสอนก็ย ากยิ่งที่คนเราจะเปลี่ยน
แบบนี้แล้ว พวกเราจึงจำเป็นต้องทำตัวเป็นอาจารย์ของตนเพื่ออบรมตนเองให้มองเห็นพิ ษภั ยของความโก รธชิงชังอารมณ์ทำลาย
3. สร้างความสบายเล็กๆน้อยๆให้คนอื่นๆจนเป็นนิสัยคือให้รู้จักยกย่อง ให้กำลังใจผู้คนบ่อยๆ
เมื่อทำให้เขาสุขสบายแล้วให้เรารู้จักเอาอกเอาใจไปสัมผัสความรู้สึกนั้นเรียกว่า ให้จิตใจพวกเราซาบซึ้ง
กับความรู้สึกที่เย็นใจอยู่ตลอดพวกเราบางครั้งอาจจะลองเทียบกันดูก็ได้ว่าอารมณ์รูปแบบนี้ กับอารมณ์ในยามที่โก รธ
แบบไหนดียิ่งกว่ากันถ้าเกิดหัวใจพวกเราคุ้นกับความรู้สึกที่ดีมันจะเบาๆระอาความขุ่นเคืองเกลียดชังชิ งชั งไปทีละเล็กทีละน้อย
ในข้อนี้เป็นการแ ก้กิเล สด้วยกุศ ลปรปักษ์ถ้าความโกรธเป็นด้านมืดในที่นี้ด้านสว่างก็คือความกรุณา
เราบางทีอาจไล่ส่งความมืดดำไม่ได้แม้กระนั้นถ้าหากเราจุ ดไ ฟได้ ความมืดจะหายไปรวมทั้งความสว่างจะเข้ามาแทนที่
ภาษาธรรมเรียกสิ่งนี้ว่า การทวนกระแสกิเล สเป็นใช้ธรรมคู่ตรงข้ามมาจัดการกิเล สให้เบาบาง
4. ฝึกฝนมองความรู้สึกด้วยความจริงใจที่เป็นกลางในข้อนี้คือธรรมะชั้นลึก เป็นการรุ่งโรจน์สติ
คือพวกเราฝึกฝนดูอารมณ์ต่างๆของเราด้วยใจจริงที่เป็นกลางราวกับความนึกคิดความรู้สึกนั้นไม่ใช่พวกเรา
ชอบใจก็ไม่เข้าไป เศร้าใจก็ไม่เข้าไปคนชื่นชอบก็วางไว้ คนนินทาก็วางไว้ฝึกหัดให้มีความคิดเห็นว่าอารมณ์ความคิดกลุ่มนี้
หากดวงใจพวกเราเข้าไปยึดในที่สุดก็ไม่ดีทั้งนั้นเพราะว่ายึดข้างหนึ่ง อีกข้างก็จะตามมาด้วยเหมือนในกำเหรียญไว้ในมือ
ก็จะได้ทั้งยังหัวอีกทั้งก้อยมาในคราเดียวรักสุขก็จะได้ทุ กข์เป็นของแถมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในข้อนี้ถ้าเกิดฝึกเสมอๆนอกเหนือจากความขุ่นเคืองแล้วยังช่วยกำจัดตัดทอนพลังความคิดด้านล บได้ทั้งหมดทั้งปวง
อาทิเช่นความหม่นหมองความเดียวดายความน่าเบื่อต่างๆจิตใจจะเป็นกลาง หนักแน่นเพิ่มมากขึ้น
5. รู้จักอยู่ รู้จักข้อเสียจุดแข็ งของตัวเองคือให้รู้จักพินิจตัวเองถ้าเกิดเราโก รธผู้ใดกันแน่เป็นประจำ
เวลาอยู่ใกล้ก็ให้ระวังครั้งคราว กับคนบางคนให้สังเกตดูเหอะว่า พวกเราก็โกรธเขา
โกรธคนๆนี้ จนกระทั่งกลายเป็นความเคยชินเพียงแต่เห็นหน้ายังไม่ทันทำอะไร
จิตใจก็วูบๆไหวๆความรำคาญก็เริ่มเข้ามานี้ควรเลี่ยงการประจันหน้าทั้งนี้ในเรื่องที่หลีกเลี่ยงมิได้จริงๆ
ยกตัวอย่างเช่นเป็นคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัว เป็นสามีภรรย าเป็นลูก เป็นนายจ้าง ลูกน้อง มิตรสหาย แบบนี้ก็ให้ชูเอาสิ่งที่เขาทำขั ดหัวใจพวกเรา
มาเป็นสิ่งที่ใช้ในการฝึกฝนใจของเรา ฝึกฝนอภั ยดีกว่าปล่อยใจของเราให้ต กต่ำไป
ด้วยเหตุว่ามัวแต่เถียงกับเขาให้เอาความขัดแย้ งนั้นมาบ่มเพาะความรัก เมตตาขอให้พวกเรารับรู้ไว้ว่า ส่วนใหญ่แล้ว
ถ้าขัดแย้งแต่ว่ามีความสำคัญจำต้องอยู่ร่วมกันตัดกันไม่ข าด แย กกันไม่ข าดสิ่งนี้มักมีต้นเหตุที่เกิดจากมีบุญก ร ร ม
สโมสรร่วมกันมานานกลายเป็นแรงก ร ร มผูกพัน ผู กรั้งไม่ให้ไปไหนแบบนี้ยิ่งจำเป็นต้องรู้จักระวัง หยุด สำรวม
อย่าไปก่อเวรก่อกรรมให้กันและกันมากขึ้นการเป็นคนโกรธง่าย ไม่มีอะไรดีมีแต่ว่าเสียประโยชน์ เสียอีกทั้งสุขภาพทางกายดวงใจ
ทำลายความเกี่ยวข้อง ทำลายหน้าที่การงานทำลายบารมีในตนแปลงเป็นผู้ที่สร้างความทุ กข์ให้ผู้อื่น
และตัวเองก็หาความสุขได้ย าก5 ข้อนี้ ฝึกแรกๆจะทำได้ย ากแม้กระนั้นขอให้อดทนฝึกหัดทำทุกข้ออย่างสม่ำเสมอ
สำคัญเป็นควรจะมีพลังใจ แล้วก็วินัยฝึกแรกๆอย่าปล่อยใจตามความเคยชินของตัวเองสุดท้ายแล้วเราต้องมีความเข้าใจว่า
การลดมานะอัตตาของตนลดความโกรธเกลียดชังของตัวเองพวกเราไม่ได้ทำเพื่อคนใดกันแม้กระนั้นพวกเราทำเพื่อยกฐานะจิตใจของตน
เพื่อความสบายของพวกเราเองจริงอยู่สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่าย แม้กระนั้นถ้าทำเป็นวันหนึ่ง รู้จะสัมผัสถึงความเบาใจของชีวิต
มีชีวิตที่ค่อยขึ้น สบายขึ้นถึงวันนั้นพวกเราจะยินดี แล้วก็รู้สึกขอบพระคุณตัวเองรู้สึกยินดีว่า พวกเราสามารถผ่านผ่านตัวตนเก่าๆ
ไปสู่ตัวตนใหม่ที่ดีกว่าเดิมรวมทั้งสิ่งนี้คือการมอบความรักรวมทั้งความกรุณาปรานีให้ตัวเองอย่างแท้จริง...
โมโห
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12886/