ชีวิตบุคลากรสถานที่ทำงาน ส่งผลต่อตับ เป็นปัญหาที่ดูเหมือนจะตอบยากเนื่องจากหาก ตับมีปัญหา (https://www.rophekathailand.com/post/l/hepheka/how-liver-notwork) ตับก็จะไม่แสดงออกทันที ซึ่งต่างกับอวัยวะอื่นๆที่เจ็บเมื่อไรก็ส่งสัญญาณเตือนในทันที แต่ว่าสำหรับตับแล้วถ้าหากได้รับการทำร้ายตับก็จะสามารถซ่อมตนเองแต่ว่าก็บางครั้งก็อาจจะไม่โชคดีเสมอไปพร้อมถ้าตับได้รับการทำลายอย่างหนักรวมทั้งสม่ำเสมอก็นำมาซึ่งการทำให้ตับแข็งหรือเป็น โรคมะเร็งตับ ได้
(https://www.rophekathailand.com/wp-content/uploads/2021/03/oneday-load-liver-1.jpg)
แล้วใน ชีวิตพนักงานออฟฟิศ 1 วันอย่างเราๆนั้นสร้างภาระหน้าที่ให้ตับได้มากขนาดไหนมาดูกัน
อาหารมื้อเช้า มีผลต่อตับ
มื้อยามเช้าที่รีบของวัยรุ่นสำนักงานจำนวนมากกับการดื่มกาแฟเพียง 1 แก้วหรือจนถึงมิได้กินอะไรเลยทำให้ร่างกายมิได้รับสารอาหารที่จำเป็น ซึ่งถ้าเกิดนับเวลาย้อนไปมื้อปัจจุบันที่ร่างกายได้รับไม่ต่ำลงยิ่งกว่า 12 ชั่วโมง แปลว่าตับผู้ที่เป็นหน้าที่ส่งพลังงานและก็สารอาหารไปยังส่วนต่างๆภายในร่างกายนั้นต้องดึงไกลวัวเจนที่เก็บสะสมไว้มาเปลี่ยนเป็นพลังงานในช่วงเวลาเช้าและร่างกายยังจะต้องทดแทนคาร์โบไฮเดรตที่ใช้สำหรับการเปลี่ยนเป็นพลังอย่างเร็วจึงจำต้องกินในมื้อถัดไปมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วยซ้ำซึ่งเปลี่ยนเป็นการเพิ่มภาระให้ตับในการทำงานมากขึ้น
มลภาวะ สารพิษ ส่งผลต่อตับ
ตอนเช้ายังจำต้องพบเจอมลภาวะบนท้องถนนในทุกวันด้วยชีวิตที่รีบร้อนของชาวเมืองในขณะนี้ที่จะต้องพบกับมลภาวะต่างๆไม่ว่าจะเป็น ควันที่มีพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ สารพิษเหล่านี้ เมื่อได้รับการสะสมเป็นระยะเวลาที่ยาวนานอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ผลวิจัยจากองค์กรอนามัยโลกระบุว่า 80% ของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆของมนุษย์นั้น ล้วนแต่มีต้นเหตุฐานรากเกี่ยวโยงจากการสัมผัสกับมลภาวะที่สะสมเป็นเวลานานทั้งหมดส่งผลต่อภายในร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งตับที่เป็นศูนย์กลางและก็กรองพิษของร่างกาย
Fast Food ส่งผลต่อตับ
เพียงพอมื้อเที่ยงตรงต่างคนต่างรีบเนื่องจากส่วนมากพนักงานสำนักงานจำเป็นจะต้องรีบหามื้อกลางวันในช่วงเวลาเดียวกันซึ่งมื้อของกินที่เหมาะสมกับในเวลานั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารจานด่วนพร้อมกินได้ทันทีแต่ว่าบางทีอาจส่งผลร้ายในระยะยาวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตับ เนื่องจากว่าโดยมากอาหารจานด่วนนั้น มักจะมีแป้ง น้ำตาล ไขมัน และโซเดียมสูงเกินความจำเป็นของร่างกาย ทำให้เกิดการสั่งสมไขมันส่วนเกินในตับได้ซึ่งถ้ามีไขมันพอกมากๆ หรือแทรกในเนื้อตับมากมายเข้า ส่งผลเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับ ก่อให้เกิดสภาวะตับอักเสบ โรคตับแข็งรวมทั้ง โรคมะเร็งตับ สุดท้าย
ความเครียด ส่งผลต่อตับ
ตกบ่ายมีเรื่องสะสมให้เกิดความเคร่งเครียดทั้งยังเรื่องเนื้องานที่ได้รับมอบหมายหรืองานด่วน งานแทรกนำมาซึ่งการทำให้ ขั้นตอนการทำร้ายตับจากความตึงเครียดที่สะสม ทำให้ต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนและก็ฮอร์โมนในกลุ่มความตึงเครียด ดังเช่น คอร์ติซอล ซึ่งมีผลต่อการกระตุ้นเนื้อเยื่อของเซลล์ต่างๆในร่างกายจนทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ตับและทำให้ความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการดำเนินการของภูมิคุ้มกันลดลดลงทำให้เกิดความเสียหายต่อตับได้ เปิดโอกาสให้เชื้อโรคเข้ามาปองร้ายได้มากขึ้น นี่คือต้นสายปลายเหตุว่าเพราะอะไรเราถึงล้มป่วยจากความเคร่งเครียดได้
แอลกอฮอล์ ยาสูบ ส่งผลต่อตับ
และก็ก่อนกลับไปอยู่บ้านก็มีการสังสรรค์ ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ คุยกับเพื่อนพ้องสถานที่สำหรับทำงานทั้งยังเรื่องงาน เรื่องส่วนตั แต่หารู้ไม่ว่าเป็นการทำลายตับโดยตรง ด้วยเหตุว่าเซลล์ตับถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้วก็การสูบบุหรี่ ทั้งยังสารพิษอะซีทัลดีไฮด์ จากแอลกอฮอล์ ทำให้โรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์รวมทั้งการสูดควันที่เกิดจากบุหรี่ซึ่งมีสารอนุมูลอิสระผสมปนเปแล้วก็ สารนิโคติน ที่เข้าไปกระตุ้นต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนทำให้เซลล์ตับเกิดการความย่ำแย่ และแอลกอฮอล์ ยังให้แคลอรี่ มากถึง 7 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม เทียบกับ คาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน ที่ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม ก็เลยไม่แปลกที่ สายดริ๊งก์ถึงเสี่ยงมีภาวะอ้วนลงพุง!!!
นอนน้อย มีผลต่อตับ
และก็ในที่สุดกว่าจะได้นอนก็ยังนอนดึก พักผ่อนน้อย ส่วนมากแล้วหนุ่มสาวออฟฟิตทั้งหลายแหล่ก็ยังมิได้นอนส่งผลให้กระบวนการทำงานกำจัดสารพิษในตับดำเนินการได้ไม่เต็มที่ส่งผลต่อการเกิดโรคร้ายที่ตามมาทั้งยังตับอักเสบได้อย่างง่ายๆ ซึ่งตามแนวคิดแล้วช่วง ห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง เป็นเวลาที่จะเกิดแนวทางการกำจัดสารพิษในตับ ซึ่งควรจะจำต้องอยู่ในช่วงการนอนหลับสนิท
จากพฤติกรรมเพียง หนึ่งวันพวกเราก็สร้างภาระหน้าที่ให้ตับเรียกว่าทุกช่วงเวลาเลยก็ว่าได้ ไหนจะเป็นภาระหน้าที่ที่พวกเราเลี่ยงมิได้หรืออุตสาหะควบคุมและทำได้ยาก ด้วยเหตุดังกล่าวพวกเราจึงจำเป็นที่จำเป็นต้องหันมาดูแลรักษาสุขภาพร่างกายตับเราให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ก่อนจะไม่เหลือตับให้ดูแล